หน้าแรก >บทความ
<div>
<img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/post/content/2024/12/209771b2-48e6-41b8-99f5-0e7ef37f8520.png"
width="600"
height="400"
alt="“แสนสิริ” ประกาศร่วมทุน “มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์)” พัฒนาโครงการลักซ์ชูรี ลุยสองโครงการแนวราบ “นาราสิริ-บุราสิริ” มูลค่ากว่า 6 พันล."
style="width: 100%; height: "
class="rounded-t" />
</div><div><ul>
<li><strong>แสนสิริ เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ </strong><strong>RESILIENT GROWTH</strong><strong> ขยายโอกาสในการลงทุน <br></strong>กับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน</li>
</ul>
<ul>
<li>ล่าสุด ทุนญี่ปุ่น ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ <strong>“</strong><strong>บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด</strong><strong>” </strong><strong>มั่นใจเศรษฐกิจไทย ลงทุนอสังหาฯ ต่อเนื่อง</strong>
</li>
<li>ผนึก “แสนสิริ” <strong>จัดตั้งบริษัทร่วมทุน นำร่องพัฒนาสองโครงการสำคัญ “นาราสิริ บางนา กม.10 และบุราสิริ จตุโชติ</strong><strong>” </strong>มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท</li>
</ul>
<ul>
<li>พร้อมเดินหน้าพันธมิตรระยะยาว <strong>มองหาโอกาสพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต</strong></li>
</ul>
<p><strong>บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ </strong><strong>SIRI </strong><strong>ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญส่งท้ายปี กับการผนึกกำลังกับทุนญี่ปุ่น บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อร่วมพัฒนาสองโครงการแนวราบ ได้แก่ บุราสิริ จตุโชติ ตั้งอยู่ใน </strong><strong>Community </strong><strong>จตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ขนาดกว่า 184 ไร่ และนาราสิริ บางนา กม.10 หนึ่งในแบรนด์สำคัญใน </strong><strong>Sansiri </strong><strong>10</strong><strong> East </strong><strong>ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้แห่งใหม่กว่า 165 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.10 </strong>ไฮไลท์สำคัญคือทั้งสองโครงการตั้งอยู่ใน Sansiri Community (10 East บางนา กม.10 และจตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา) ทั้งนี้ แสนสิริ มุ่งสร้างโมเดล Sansiri Community ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ และยกระดับให้เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์ อาทิ มีโครงการระดับมาสเตอร์พีชออกแบบเพื่อความยั่งยืนเติมเต็มทุกกิจกรรมครอบครัว, <br>การสร้างสังคมคุณภาพท่ามกลางสิ่งแวดล้อมคุณภาพ, ทำเลที่ตั้งเดินทางสะดวก รวมถึงการบริการหลังการขายที่ยังคงมุ่งเน้นให้โครงการยังคงงดงาม Timeless เสมือนวันแรกที่เข้าอยู่ เป็นสินทรัพย์ที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกสู่รุ่นลูกได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งมั่นใจการร่วมทุนทางธุรกิจในครั้งนี้ จะได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ต่อยอดพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ สร้างมาตรฐานการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชูรีสู่ Global Brand ร่วมกัน โดยคาดว่าทั้งสองโครงการ จะเปิดตัวในปีหน้า (2568)</p>
<p><strong>บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด </strong><strong>(</strong><strong>MFADT)</strong> เป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง จำกัด ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 รับผิดชอบกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมิตซุย ฟุโดซันในประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซังได้พัฒนาธุรกิจในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกอื่นๆ รวมถึงในจีน ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ INNOVATION 2030 ที่กำหนดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ</p>
<p><span style="font-family: var( --e-global-typography-text-font-family ), Mitr, Sans-serif; font-weight: var( --e-global-typography-text-font-weight ); text-align: var(--text-align); font-size: var( --e-global-typography-9ef95e3-font-size );">แสนสิริ ขอขอบคุณ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของอสังหาฯ ไทยในกลุ่มลักซ์ชัวรี เนื่องจากในตลาดนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งแสนสิริเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด หลายโครงการสามารถ Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว จากประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 40 ปี และในฐานะแบรนด์ Taste-Maker ที่เข้าใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ</span></p>
<p>แผนความร่วมมือกับมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแสนสิริตามแผนแผนธุรกิจ สู่ปีที่ 40 ”NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH” เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และรักษาอันดับความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ที่พร้อมขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน ล่าสุด ได้ประกาศผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน (สิ้นสุด ก.ย. 67) มีรายได้รวมมาเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอสังหาฯ อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,009 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวอีก 15 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท</p>
<p><strong><u>Note to Editor</u></strong>: ข้อมูลสองโครงการร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ <br>(ไทยแลนด์) ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายในปี 2568</p>
<p></p>
<ul>
<li><strong>บุราสิริ จตุโชติ</strong> ขนาด 49 – 3 – 9.1 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,080 ล้านบาท ราคาเริ่ม 14 - 25 ล้านบาท เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนจตุโชติ และถนนวงแหวนตะวันออก ตั้งอยุ่ในจตุโชติคอมมิวนิตี้ (อยู่ระหว่างการพัฒนา</li>
<li><strong>นาราสิริ บางนา กม.10</strong> ขนาด 38 – 2 – 96.2 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท ราคาเริ่ม 55 - 120 ล้านบาท ตั้งอยุ่ใน Sansiri 10 East ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ที่จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ บนถนนบางนา กม.10</li>
</ul></div><div style="height: 0; width: "100%"; backgroundColor: " />
Homeday